การลงทุนกับอสังหาโดยเริ่มต้นเงินลงทุนที่ 0 บาท

การลงทุนกับอสังหาโดยเริ่มต้นเงินลงทุนที่ 0 บาท

การลงทุนกับอสังหาโดยผู้ลงทุนไม่ต้องรองรับความเสี่ยงเลย เริ่มต้นการลงทุนกับอสังหาด้วยเงินลงทุนเพียง 0 บาทนั้นสามารถทำได้จริง การลงทุนทำกำไรกับอสังหาแบบนี้เรียกว่าการจับเสือมือเปล่าก็ว่าได้ ความจริงแล้วการลงทุนกับอสังหาในลักษณะนี้ก็คือการที่ผู้ลงเป็นคนกลางระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขาย เป็นผู้ดำเนินการจัดการเป็นธุระสารพัดเรื่องที่เกี่ยวกับการซื้อขายอสังหาแปลงนั้นๆ ห้องนั้นๆ หลังนั้นๆ โดยผู้ลงทุนจะได้รับผลประโยชน์ตอบแทนโดยปกติแล้วอยู่ที่ 3% ของราคาที่ซื้อขายกันจริง ไม่ใช่ราคาที่แจ้งต่อหน่วยงานของรัฐเพื่อคำนวณการลงทุน

นอกจาก 3% ที่ปกติจะได้รับอยู่แล้ว ถ้าสามารถเจรจาตกลงกับทางฝ่ายผู้ขายได้หนึ่งส่วนเรียกเก็บค่าดำเนินการ 3% แล้วยังเป็นผู้ดำเนินการให้กับฝ่ายผู้ซื้อในการหาทรัพย์สินดีๆ มาให้อีกจำนวน 3% การตกลงในรูปแบบนี้ทำให้ผู้ลงทุนที่เป็นคนกลางในการลงทุนกับอสังได้เงินกำไรคนเดียวรวมแล้วมากถึง 6% ของราคาขายทรัพย์สินเลยทีเดียว

การลงทุนกับอสังหาโดยเริ่มต้นเงินลงทุนที่ 0 บาท

ยังไม่หมดแค่นี้ ด้วยสติปัญญาของผู้ลงทุนทำหน้าที่เป็นคนกลางนอกจากจะทำหน้าที่เป็นตัวแทนทั้งสองฝ่ายแล้ว ผู้ลงทุนยังสามารถเจราจากับทางฝ่ายผู้ขายว่าให้ผู้ขายกำหนดราคาขายอสังหามาว่าต้องการจำนวนเท่าไหร่ ถ้าผู้ดำเนินการขายได้ในราคาที่สูงกว่านี้ เงินส่วนต่างจะเป็นของผู้ดำเนินการ เช่น ต้องการขายเพียง 10 ล้านบาทแต่ผู้ดำเนินการขายได้ 15 ล้านบาท ส่วนต่าง 5 ล้านตกเป็นของผู้ลงทุนคนกลาง หรือในทางตรงกันข้ามผู้ลงทุนคนกลางเจรจากับฝ่ายผู้ซื้อว่าผู้ซื้อต้องการซื้ออสังหาในราคาเท่าไหร่ ถ้าซื้อได้ถูกกว่านี้ส่วนต่างเป็นของผู้ลงทุนคนกลาง เช่น ผู้ซื้อตกลงยอมรับและซื้อได้ในราคา 10 ล้านบาท แต่ผู้ลงทุนคนกลางไปเจรจาและตกลงขายได้    8 ล้านบาทเมื่อผู้ซื้อจ่ายเงินค่าซื้ออสังหา 10 ล้าน 2 ล้านจะตกเป็นของผู้ลงทุนคนกลางนั่นเอง

ทั้งหมดที่กล่าวมาเป็นการลงทุนกับอสังหาโดยไม่ต้องเสียเงินสักบาทแต่เสียน้ำลายเป็นถังๆ กว่าจะสำเร็จลงล่วงไปได้

 

# ข้อแนะนำสำหรับการคุ้มครองผู้ลงทุนเพื่อลดความเสี่ยง

การลงทุนกับตั๋วเงินคลัง

การลงทุนกับตั๋วเงินคลัง

         การลงทุนอีกอย่างที่ความเสี่ยงต่ำและได้ผลตอบแทนแน่นอน และยังมีรูปแบบคล้ายกับ พันธบัตรรัฐบาล นั่นก็คือ การลงทุนกับตั๋วเงินคลัง ที่ การลงทุนอีกอย่างที่ความเสี่ยงต่ำและได้ผลตอบแทนแน่นอน และยังมีรูปแบบคล้ายกับ พันธบัตรรัฐบาลอย่างหนึ่งที่มีอายุของตั๋วเงินแบบไม่เกิน 1 ปี ซึ่งจะมีวิธีในการออกจำหน่ายสู่ตลาดให้แก่ผู้ที่สนใจ โดยผ่านองค์กร หรือหน่วยงานของภาครัฐ สถาบันทางการเงิน กองทุนต่าง ๆ แต่จะมีความแตกต่างกับการลงทุนในตราสารประเภทอื่น ๆ ก็คือ จะไม่ได้ให้ผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ย แต่จะให้ผลตอบที่มีลักษณะเป็นส่วนต่างที่มาจากการซื้อตั๋วเงินคลัง ที่ในวันที่ซื้อจะซื้อในอัตราที่น้อยกว่ามูลค่าที่ระบุไว้หน้าตั๋วนั้น และหากเมื่อครบกำหนดไถ่ถอนคืนเมื่อไร ผู้ลงทุนก็สามารถจะได้รับเงินเต็มจำนวนตามที่ระบุไว้ในหน้าตั๋วเงินคลัง จึงทำให้ผลตอบแทนของผู้ลงทุน ก็คือส่วนต่างที่เพิ่มขึ้นนั่นเอง

การลงทุนกับตั๋วเงินคลัง

ดังนั้น เมื่อการลงทุนกับตั๋วเงินคลัง เป็นสิ่งที่ภาครัฐออกมาเพื่อมีเจตนาเป็นการระดมทุน สำหรับการรวบรวมเงินมาสำหรับการบริหารประเทศ จึงเป็นลักษณะเหมือนเป็นการกู้เงินจากประชาชน จึงทำให้การลงทุน จัดว่าเป็นการลงทุนที่มีความน่าเชื่อถือสูงและความเสี่ยงแทบจะไม่มี จึงมีความมั่นคงสูงมาก เพราะกระทรวงการคลัง หรือก็คือภาครัฐเป็นผู้ออกตั๋วให้เอง อีกทั้งเป็นการลงทุนที่ไม่นานมาก ก็ได้ผลตอบแทน และตันเงินที่ลงทุนกลับคืน ทำให้เงินไม่ไปจมอยู่นานสามารถนำไปใช้ลงทุนอย่างอื่นได้ เหมาะสำหรับการวางแผนทางการเงินต่อไปได้ดี อีกทั้งตัวเงินที่ได้กลับคืน ก็มีการจ่ายคืนโดยการโอนเข้าบัญชีแบบอัตโนมัติ เมื่อครบกำหนดวันที่ต้องไถ่ถอน และมีผลตอบแทนที่ดีกว่าดอกเบี้ยธนาคารแน่นอน

# กองทุนรวม มีแบบใดบ้างที่เหมาะกับวัยเกษียณ