ร้านอาหารไทยบุกเวียดนาม สร้างความสำเร็จให้กับคนรุ่นใหม่

ร้านอาหารไทยบุกเวียดนาม สร้างความสำเร็จให้กับคนรุ่นใหม่

เรื่องอาหารไว้ใจคนไทยได้ เพราะประเทศเราขึ้นชื่อเรื่องของกิน ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็ไม่มีอด เพราะมีอาหารนานาชนิดมาเรียงรายรอขายข้างทาง ที่สำคัญคือ เปิดขายตลอดทั้ง 24 ชั่วโมง จึงไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมชาวต่างชาติถึงเรียกประเทศไทยว่าเป็นสวรรค์ของนักกิน ซึ่งไม่ได้มีเพียงแค่ฝรั่งเท่านั้นที่ชอบอาหารไทย แต่คนเวียดนามเองก็ชอบอาหารไทยเช่นกัน

อย่างวันที่ 3-5 กรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครโฮจิมินห์ เพิ่งจะประสบความสำเร็จจากการจัดงาน Mini Thailand Week 2020 ที่นครเกิ่นเทอ เพื่อเปิดทางให้ผู้ประกอบการไทยให้พบปะกับคู่ค้าในเวียดนาม ตลอดจนสร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพมาตรฐานสินค้าและอาหารไทยให้ผู้บริโภคชาวเวียดนามผ่านตราสัญลักษณ์ Thai Select และ Thailand Trust Mask

ร้านอาหารไทยบุกเวียดนาม สร้างความสำเร็จให้กับคนรุ่นใหม่

ภายในงานไม่ได้มีแค่อาหารไทยเทานั้นที่ไปสร้างชื่อเสียงดีๆ ที่ต่างบ้านต่างเมือง แต่ยังมีสินค้าแฟชั่นความงาน และสุขภาพอีกด้วย โดยอาหารไทยได้กลายเป็นไฮไลท์ของงานนี้ไปโดยปริยาย เพราะเวียดนามมีประชากรมากถึง 95 ล้านคน และจะมีประชากรสูงถึง 120 ล้านคน ในปี 2593 กว่า 50% มีรายได้เฉลี่ย 2,715.3 ดอลลาร์ ต่อปี หรือ 84,373.87 บาทต่อปี พวกเขามีกำลังซื้อสูง การส่งอาหารไทยไปขายให้ชาวเวียดนาม จึงน่าจะเป็นการเปิดช่องทางทางการค้าใหม่ๆ ที่ดี

โดยคนเวียดนามมั่นในใจคุณภาพสินค้าที่มาตรฐานระดับสากลของแบรนด์ไทย เพราะขนมครกวีแกนท่าช้างที่ประสบความสำเร็จในประเทศเวียดนาม ก็ได้รับคัดเลือกให้เข้าร่วมงาน Mini Thailand Week 2020 ในครั้งนี้ด้วย

 

ธุรกิจออนไลน์น่าสนใจ

ลงทะเบียนเราเที่ยวด้วยกัน ได้ส่วนลดที่พัก

ลงทะเบียนเราเที่ยวด้วยกัน ได้ส่วนลดที่พัก

งานนี้ไม่รู้เหมือนกันว่าจะบอกว่าดีใจหรือเสียใจดี ที่รัฐบาลได้จัดโครงการท่องเที่ยวในประเทศ เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในขณะนี้ เพราะสถาการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่อย่างโคโรน่าไวรัส 2019 ยังระบาดหนักทั่วโลก โดยในประเทศจีนพบผู้ติดเชื้อในประเทศ จนต้องปิดโรงเรียนกันใหม่อีกรอบ รวมไปถึงประเทศออสเตรเลีย ที่ทำการล็อคดาว์นรอบ 2 ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เนื่องจากมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสระลอก 2 ซึ่งในรอบนี้เชื้อมีความรุนแรงมากกว่าเดิม เนื่องจากเชื้อไวรัสได้มีการกลายพันธุ์ และทำให้มีคนติดเชื้อดังกล่าวเป็นกลุ่มใหญ่ สร้างความตื่นตระหนกให้กับผู้คนเป็นจำนวนมาก เพราะจากที่เคยคิดว่าสามารถควบคุมโรคได้ กลับกลายเป็นต้องกลับมาสแกนตรวจกันใหม่อีกรอบ หากประเทศไทยเปิดประเทศให้ท่องเที่ยวอย่างเสรีอีกครั้ง อาจจะกลายเป็นการทำให้เชื้อโรคร้ายกลับมาแพร่พันธุ์ในประเทศอีกครั้งก็เป็นได้

อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) โฆษกกระทรวงการคลัง อย่าง นายลวรณ แสงสนิท ก็ได้ออกมาแถลงโครงการเราเที่ยวด้วยกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีใจความดังต่อไปนี้

ลงทะเบียนเราเที่ยวด้วยกัน ได้ส่วนลดที่พัก

“วิธีลงทะเบียนเราเที่ยวด้วยกัน” ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการกระตุ้นการท่องเที่ยวฟื้นฟูเศรษฐกิจภายในประเทศว่า ประชาชนสามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.เราเที่ยวด้วยกัน.com โดยจะเริ่มเปิดรับลงทะเบียนในวันที่ 15 ก.ค. 63 นี้ เวลา 06.00-21.00 น. โดยผู้ลงทะเบียนจะต้องดำเนินการดังนี้

  1. ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ผ่านเว็บไซต์ เราเที่ยวด้วยกัน.com เมื่อลงทะเบียนเสร็จแล้วจะได้รับ SMS ยืนยันตอบกลับภายใน 3 วัน
  2. ติดตั้งแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง

– หากมีอยู่แล้วให้ใช้ต่อได้เลย

– หากยังไม่มี สามารถโหลดแอปฯ โดยมีขั้นตอนโหลดดังนี้ (คลิก) ขั้นตอนโหลดแอปฯ เป๋าตัง “เที่ยวปันสุข-เราไปเที่ยวกัน”

  1. จองโรงแรมไม่เกิน 5 ห้องต่อคืนต่อคน
  2. วางแผนเที่ยวให้เรียบร้อย โดยสามารถจองโรงแรมได้หลายช่องทาง เช่น จองโดยตรงกับโรงแรม, Agoda, Traveloka หรือ Online Travel Agency (OTA)
  3. จ่ายเงินผ่าน เป๋าตัง 60% ของค่าห้อง ผ่านการโอนเงิน หรือ เครดิตการ์ด
  4. ไม่สามารถยกเลิกได้
  5. Check Inจะได้รับ E-Voucher 600 บาทต่อคืน เวลา 17.00 น. ของทุกวัน สูงสุด 5 คืน
  6. Check Out E-Voucher จะหมดอายุเวลา 24.00 น. ของวันที่ Check Out ได้รับเงินคืนค่าเครื่องบิน 40%

– ไม่เกิน 1,000 บาท ผ่านแอปฯ เป๋าตัง

– กรอก Booking No. ใน “เราเที่ยวด้วยกัน.com”

– ได้รับสิทธิ์ 2 คนต่อห้อง

– กำหนดโอนเงินทุกวันที่ 15 และวันที่ 30 ของเดือนนั้นๆ

โดยผู้ที่ลงทะเบียนเราเที่ยวด้วยกัน ที่ได้รับสิทธิ์แล้วจะสามารถใช้เดินทางได้จริงตั้งแต่วันที่ 18 ก.ค. – 31 ต.ค. 63”

ใครไม่กลัวเสี่ยงจะไปเที่ยวแอดไม่ว่า แต่สิทธิ์พิเศษรายงานนี้ แอดขอบายล่ะ

 

นักวาดรูปออนไลน์ เปลี่ยนคำว่านักเขียนใส้แห้งอีกต่อไป

ข้อแนะนำสำหรับการคุ้มครองผู้ลงทุนเพื่อลดความเสี่ยง

ข้อแนะนำสำหรับการคุ้มครองผู้ลงทุนเพื่อลดความเสี่ยง

       ในปัจจุบันที่เรื่องของการจะลงทุนกับหลักทรัพย์แต่ล่ะครั้งมักที่จะมีความไม่แน่นอนหรือว่าความเสี่ยงปะปนอยู่เต็มไปหมด จึงได้มีการก่อตั้ง กองทุนคุ้มครองผู้ลงทุนในหลักทรัพย์ ขึ้น โดยมีเหล่าสมาชิกของตลาดหลักทรัพย์หรือว่าในอีกชื่อหนึ่งอย่าง โบกเกอร์ ที่ได้เข้าร่วมสมัครสมาชิกซึ่งบุคคลพวกนี้จะค่อยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับหลักทรัพย์ของผู้ลงทุนและยังอัพเดทข่าวสารที่จะช่วยให้หุ้นของการลงทุนเพิ่มขึ้นได้เรื่อยๆ อีกด้วย เมื่อทำการลงทุนกับสมาชิกที่เป็นโบกเกอร์ของกองทุนก็ยังจะได้รับเงินชดเชยจากตลาดหลักทรัพย์ตามที่ได้กำหนดไว้

ข้อแนะนำสำหรับการคุ้มครองผู้ลงทุนเพื่อลดความเสี่ยง

แต่ถ้าหากว่าการคุ้มครองจาก โบกเกอร์ ที่ดูแลทรัพย์สิ้นของผู้ลงทุนได้เกิดข้อผิดพลาดบางอย่างขึ้นเช่น เกิดเหตุการณ์ล้มลายจากการฟ้องร้องถูกทางศาลพิพากษาตามกฏหมายและ โบกเกอร์ที่ได้คุ้มครองลักทรัพย์ไม่ยอมคืนทรัพย์สินให้แก่เจ้าของทำให้เกิดการฟ้องร้องขึ้น เป็นต้น ปัญหาเหล่านี้มีทางแก้ไขอยู่เสมออย่างแรกก็คือเมื่อเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวหรือนอกจากนี้ที่จะทำให้ผู้ลงทุนขาดกำไร ทางกองทุนก็จะพิจารณาและจ่ายเกินให้ไม่เกินจำนวน 1 ล้านบาท ต่อไปก็คือ การยื่นใบคำร้องขอการคุ้มครองตามด้วยการเตรียมหลักฐานการยื่นยันและทำเรื่องส่งไปถึงบริษัท  ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อทางบริษัทได้รับเรื่องที่แจ้งมาแล้วก็จะสืบหาความจริงจากหลักฐานที่ส่งมาให้แน่ชัดก่อนว่าผู้ที่เสียหายมีความโปร่งใส่จริงหรือไม่ ถ้าหากว่าผู้ลงทุนได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้จริงๆ ทางตลาดหลักทรัพย์ก็จะไม่ลังเลที่จะให้การคุ้มครองกับผู้เสียหายอย่างแน่นอน

 

IAA วิเคราะห์เศรษฐกิจไตรมาส 3 รับมือกรณี COVID-19

เคสมือถือสร้างรายได้ ง่ายๆ ด้วยความคิดสร้างสรรค์

เคสมือถือสร้างรายได้ ง่ายๆ ด้วยความคิดสร้างสรรค์

ในยุคปัจจุบันที่ทุกคนใช้มือถือ ดังนั้นอุปกรณ์เสริมเกี่ยวกับมือถือจึงเป็นที่ต้องการของตลาดเสมอมา สิ่งหนึ่งที่ผู้ใช้มือถือขาดไปไม่ใด้เลยนั่นก็คือเคสมือถือ ที่จะช่วยปกป้องให้มือถือมีอายุการใช้งานที่นานขึ้น คงสภาพสวยงามเหมือนใหม่ ไม่ใช่เพียงแค่นั้น ยังสามารถสะท้อนถึงตัวตนของผู้ใช้มือถือเครื่องนั้นได้อีกด้วย ยิ่งในปัจจุบันนี้เคสมือถือนั้นมีฟังก์ชั่นให้เลือกหลากหลายทั้งที่เน้นความสวยงาม ความทนทาน หรือฟังก์ชั่นเสริมอื่นๆ อีกหนึ่งประเภทของเคสมือถือที่เป็นที่นิยมโดยเฉพาะในหมู่สาวๆ นั่นก็คือเคสมือถือ DIY

เคสมือถือสร้างรายได้ ง่ายๆ ด้วยความคิดสร้างสรรค์

การผลิตเคสมือถือ DIY นั้นก็แสนง่ายละมีราคาต่ำ และที่สำคัญสามารถทำราคาได้สูง เนื่องจากเป็นงานฝีมือ ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ และยังเป็นของที่มีเพียงชิ้นเดียวในโลกอีกด้วย เริ่มแรกคือการหาแหล่งอุปกรณ์ราคาถูก มีทั้งในประเทศและต่างประเทศ ประกออบไปด้วยเคสเปล่า อุปกรณ์ตกแต่ง กาว เรซิ่นใส หลังจากนั้นก็ลงมือทำ เป็นอันจบขั้นตอนการผลิต การต้องการวางขายหน้าร้านหรือตามตลาดนัด แนะนำให้ทำไว้หลายๆ แบบ ถ่ายรูปใส่อัลบั้มไว้ให้ลูกค้าเลือก โชว์อุปกรณ์ตกแต่งให้ลูกค้าสามารถออกแบบได้เอง หรือหากขายในออนไลน์ ควรถ่ายรูปผลงานที่เคยทำ อุปกรณ์ต่างๆ อย่างครบถ้วน ในการขายออนไลน์นั้นสิ่งสำคัญที่สุดก็คือการถ่ายรูปให้ออกมาดึงดูดลูกค้ามากที่สุด กรณีนี้ลูกค้าของเราคือกลุ่มผู้หญิง ดังนั้นควรจะคุมโทนไอจีให้น่ารักสดใส เท่านี้ก็จะช่วยให้มีลูกค้าเพิ่มมากขึ้นอีกเท่าตัว

 

# ธุรกิจออนไลน์น่าสนใจ