ประกันสังคมประกาศจะจ่ายเงินชดเชยให้ห้าพันบาท

ประกันสังคมประกาศจะจ่ายเงินชดเชยให้ห้าพันบาท

งานนี้มีเฮอย่างแน่นอน เมื่อความหวังของหนุ่มสาวของออฟฟิศ ที่ได้รับผลกระทบจากการหยุดงาน เพราะเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 ระบาดหนักจนต้องปิดเมือง ทำให้เสียงาน เสียรายได้ แต่กลับไม่ได้รับเงินเยียวยา เนื่องจากไม่เข้าเกณฑ์การให้เงินอุดหนุนของโครงการเราไม่ทิ้งกัน ที่รัฐบาลได้แจกเงิน5,000 บาท ให้กับผู้มีอาชีพอิสระ เช่น ค้าขาย วินมอเตอร์ไซค์ และอาชีพรับจ้างต่างๆ

งานนี้รัฐมนตรีกระทรวงแรงงานอย่าง ม.ร.ว. จัตุมงคล โสณกุล ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ประเด็นเรื่องการจ่ายเงินเยียวยาช่วยเหลือผู้ประกันตนดังต่อไปนี้

“ทางสำนักงานประกันสังคมได้จ่ายไปแล้ว 8.6 แสนราย รวมวงเงิน 1.32 หมื่นล้านบาท แต่ยังมีปัญหา เพราะมีผู้ประกันตนบางส่วนได้รับเงินเยียวยาไม่ถึง 5,000 บาท ประมาณ 8.6 แสนคน เพราทำงานเต็มเวลาแค่บางวันเท่านั้น ไม่ได้ทำเต็มเวลาทุกวัน ซึ่งได้แก้ไข โดย นายอุตตม สาวนายน รมว. คลัง เสนอเรื่องสำนักงานพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ขอใช้เงินกู้เพื่อเยียวผู้ที่ได้รับผลกระทบโควิด จ่ายให้ผู้ประกันกลุ่มนี้ได้เงินให้ถึง 5,000 บาท หากได้รับการอนุมัติจะจ่ายเงินได้ภายใน 10 วันจากนี้

ประกันสังคมประกาศจะจ่ายเงินชดเชยให้ห้าพันบาท

โดยขณะนี้สำนักงานประกันสังคมได้เร่งจ่ายเงินช่วยเหลือที่อัตรา 62% ให้แรงงานไปแล้ว 13,371,478 ครั้ง คิดเป็น 863,323 ราย โดยคิดเป็นวงเงิน 13,297.246 ล้านบาท เป็นการสะท้อนว่าปัญหาของแรงงานส่วนหนึ่งได้รับการแก้ไขเรียบร้อยแล้ว

สำหรับกรณีที่นักวิชาการประเมินว่า จะมีแรงงานกว่า 7,000,000 คนเสี่ยงตกงานนั้น มองว่า ตัวเลขดังกล่าวน่าจะเป็นตัวเลขที่เป็นการคาดการณ์เท่านั้น ส่วนสิ้นปี 2563 ตัวเลขผู้ว่างานจะเป็นเท่าไหร่คงต้องมาดูกันต่อไป แต่ยืนยันว่าปีนี้เอาอยู่ โดยปัจจุบันกองทุนประกันสังคมมีเงินอยู่ 160,000 ล้านบาท ซึ่งจะเพียงพอดูแลแรงงานที่ว่างงานจากนี้แน่นอน โดยเบื้องต้นประเมินว่าจะใช้เงินไม่ถึง 100,000 ล้านบาท

และในวันที่ 21 ก.ค.นี้ กระทรวงแรงงาน เตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณานำเงินดอกผลที่สำนักงานประกันสังคมมีอยู่ จากการนำไปลงทุน บริหารจัดการตามกฎกระทรวงอนุญาตไว้ ที่มีอยู่ ประมาณ 600,000 ล้านบาท และผ่านการเห็นชอบจากคณะกรรมการไตรภาคีแล้ว ออกมาใช้เพื่อรองรับมาตรการการช่วยเหลือแรงงานต่อไป”

 

# สมุนไพรไทยน่าลงทุน สามารถสร้างรายได้กว่าแสนล้านบาทต่อปี

เกษตรกรมีเฮกันทั่วหน้า

เกษตรกรมีเฮกันทั่วหน้า

หลังจากที่ผ่านเรื่องราวอันแสนยากลำบากกันมาอย่างหนักหน่วงตั้งแต่ต้นปี และต้องช้ำใจ เพราะไม่ได้รับเงินเยียวยาเราไม่ทิ้งกันให้ต้องเครียดกันไปอีกหลายตลบแล้ว วันนี้คงถึงคราวที่เกษตรกรไทยจะได้มีรอยยิ้มเปื้อนหน้ากันสักที เพราะงานนี้ทางรัฐบาลได้จัดสรรเงินเยียวยาเกษตรกรมากถึง 5,000 บาท ผ่านธนาคารธ.ก.ส. ซึ่งในขณะนี้ ได้ทำการโอนเงินเข้าบัญชีต่างธนาคารแล้วกว่า 3.5 แสนบัญชี และยังฝากแจ้งเกษตรกรที่เหลืออีก 151,878 คน ให้เข้าไปแจ้งเลขบัญชีที่เว็บไซต์ www.เยียวยาเกษตรกร.com เพื่อที่ทางรัฐบาลจะได้ทำการโอนเงินเยียวยาให้ต่อไป

อย่างไรก็ตาม เงินจำนวนนี้อาจจะพอเยียวยาแก้ปัญหาให้กับเกษตรกรไปได้แค่ช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น หากรัฐบาลต้องการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน ก็มีความจำเป็นที่จะต้องสร้างงานและรายได้ให้คนในประเทศอย่างยั่งยืน เพราะเงินนั้นให้มัน พอใช้ก็หมดไป แต่เรื่องของความรู้ และโอกาสให้การเข้าถึงช่องทางในการทำมาหากินต่างหาก ที่จะสามารถช่วยให้คนในชาติสามารถลืมตาอ้าปากได้อย่างแท้จริง

เกษตรกรมีเฮกันทั่วหน้า

โดยในขณะนี้ รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) อย่างนายกษาปณ์ เงินรวงระบุ ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์เป็นที่เรียบร้อยแล้วว่า

“ ทาง ธ.ก.ส. ได้โอนเงินเยียวยาเกษตรกรที่ใช้บัญชีธนาคารอื่น 2 ครั้ง รวม 353,593 คน และโอนผ่านพร้อมเพย์ 437 คน ส่วนที่เหลือกำลังตรวจสอบความถูกต้องของบัญชี 48,196 คน ในวันนี้ (8 ก.ค. 63) จะโอนเงินเข้าบัญชีต่างธนาคารเพิ่มอีกคาดว่าเกษตรกรจะนำเงินมาใช้ได้ในวันถัดไป

นอกจากนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เริ่มส่งรายชื่อผู้ผ่านการพิจารณาการอุทธรณ์มาแล้ว 609 คน โดยจะตรวจสอบสถานะทางทะเบียนราษฎร์ และความถูกต้องของบัญชีธนาคารเพื่อเร่งโอนเงิน ส่วนจำนวนเกษตรกรที่ ธ.ก.ส. ไม่สามารถโอนเงินให้ได้เพราะเลขบัญชีไม่ถูกต้อง บัญชีปิดไปแล้วถึง 151,878 คน ขอให้เกษตรกรที่มีสิทธิ์แจ้งเลขบัญชีใหม่ผ่านเว็บไซต์ www.เยียวยาเกษตรกร.com ส่วนเกษตรกรที่ขอสละสิทธิ์คืน กระทรวงเกษตรฯ ส่งรายชื่อให้ 259 คนนั้นอยู่ระหว่างการเรียกเงินคืนผ่านบัญชีธนาคาร”

 

หุ้น TPS บวกเพิ่มขึ้นถึง 7% ควรช้อนซื้อไว้หรือไม่

5 ธุรกิจออนไลน์น่าสนใจ

5 ธุรกิจออนไลน์น่าสนใจ

เนื่องจากที่ผ่านมาเราได้ประสบกับปัญหาโควิด 19 ทำให้หลายๆธุรกิจต้องปิดตัวลง และหลายๆธุรกิจได้เปิดตัวขึ้น ที่น่าสนใจเลย คือการทำธุรกิจออนไลน์ ซึ่งวันนี้เราจะมาดูกันว่าธุรกิจที่ทำผ่านออนไลน์อะไรบ้างที่มาแรงในขณะนี้

5 ธุรกิจออนไลน์น่าสนใจ

1.บริการดีลิเวอร์รี่อาหาร

ต้องยอมรับเลยว่าธุรกิจดีลิเวอร์รี่อาหารเป็นบริการที่ได้รับความนิยมอย่างสูงตั้งแต่ก่อนที่จะมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ซึ่งบริการนี้จะเป็นการรับออร์เดอร์จากลูกค้าที่จะสั่งอาหารจากร้านต่างๆผ่านแอปของบริการดีลิเวอร์รี่ต่างๆที่ร้านอาหารได้เข้าร่วมเอาไว้ แล้วนำมาส่งให้ลูกค้า ถือเป็นการอำนวยความสะดวกที่ดีต่อผู้ที่ ไม่มีเวลาออกไปซื้ออาหารเนื่องจากการ Work from home หรือผู้ที่กลัวว่าจะมีการติดเชื้อหากออกไปข้างนอก การใช้บริการดีลิเวอร์รี่ก็ถือเป็นทางออกที่ดีและเป็นการสนับสนุนพ่อค้าแม่ค้าไม่ให้ขาดรายได้ในช่วงสถานการณ์เช่นนี้ ถือเป็น1ธุรกิจที่มาแรงและมีผู้ใช้บริการอย่างมากมายเลยทีเดียว

 

2.YouTuber

ที่ผ่านมาวงการยูทูปเป็น1อาชีพที่ผู้คนมักคิดว่าเป็นการเข้าถึงได้ยาก แต่ในปัจจุบันมีผู้คนมากมายที่ผันตัวมาทำยูทูป ไม่ว่าจะเป็นการสอนทำอาหาร หรือจะเป็นการสอนแต่งหน้า แจกทริคในการแต่งตัว รายได้ที่จะได้ต่อตัวยูทูปเบอร์นั้นเป็นที่ห้ามเผยแพร่ แต่ที่เราสามารถรู้ได้นั้นก็คือ เมื่อยูทูปเบอร์1คนได้รับความสนใจ บริษัทที่ให้ความสนใจกับตัวยูทูปเบอร์คนนั้นก็จะส่งผลิตภัณฑ์มาให้ยูทูปเบอร์คนนั้นทดลองใช้และโฆษณา การโฆษณาหรือที่คนทั่วไปเรียกว่าขายของ เหล่ายูทูปเบอร์ก็จะได้รายได้จากตรงนี้ หรือบางคนมีผลิตภัณฑ์ที่ขายอยู่เป็นของตัวเอง ก็มักใช้อาชรพนี้เป็นการโปรโมทสินค้าไปในตัว

 

3. นักออกแบบเว็บไซส์

เป็นการทำงานออนไลน์ 100% เพราะเป็นการออกแบบหน้าตาของเว็บไซส์ให้ใช้งานง่ายและเป็นไปตามการว่าจ้างของลูกค้า เพียงเราสร้างเว็บไซส์หนึ่งขึ้นมาและพัฒนาออกแบบตามคำขอของลูกค้าเมื่อสร้างเว็บไซส์นั้นเสร็จก็ทิ้งลิ้งค์ให้กับผู้ว่าจ้าง และอธิบายการทำงานเพียงแค่นี้เราก็สามารถสร้างเว็บไซส์ให้กับผู้ว่าจ้างได้แล้ว ส่วนราคานั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าเราจะตกลงกับผู้ว่าจ้างไว้อย่างไร อาชีพนี้ไม่จำเป็นว่าจะต้องจบสายคอมพิวเตอร์มาโดยตรงเพียงคุณมีประสบการณ์การออกแบบอยู่บ้างแล้ว คุณก็ทดลองปรับปรุงฝีมือไปเรื่อยๆ นอกจากจะเป็นการเพิ่มทักษะให้ก้าวทันคามโลกดิจิตอลแล้วยังเป็นการสร้างรายได้ไปในตัวอีกด้วย

 

4. บล็อกเกอร์

บล็อกเกอร์เป็นอีกอาชีพออนไลน์ที่คล้ายคลึงกับยูทูปเบอร์ แตกต่างกันตรงที่ ยูทูปเบอร์จะนำเสนอเกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ ชีวิตประจำวัน หรือคอนเทนต์ต่างๆ แต่บล็อกเกอร์จะนำเสนอเกี่ยวกับสิ่งนั้นๆอย่างละเอียด เช่น บิวตี้บล็อกเกอร์ ก็จะนำเสนอเกี่ยวกับความสวยความงาม การดูแลผิวพรรณ การแต่งหน้า หรือแต่งตัว ที่เกี่ยวกับเรื่องความสวยงามของร่างกาย บล็อกเกอร์สายอาหาร ก็จะเป็นการนำเสนอเกี่ยวกับ การทำอาหาร การดูแลถนอมอาหาร การคัดเลือกคัดสรรสิ่งดีๆในมื้ออาหาร และเทคนิคในการทำอาหารต่างๆ โดยบล็อกเกอร์เหล่านี้ก็จะเป็นผู้ที่มีใจรักในด้านนั้นๆ แล้วอยากส่งต่อวิธีดีๆเกร็ดความรู้ให้กับผู้อื่น นอกจากจะได้ส่งต่อความรู้แล้วก็ยังเป็นการสร้างอาชีพสร้างรายได้ให้กับเหล่าบล็อกเกอร์เหล่านั้นอีกด้วย ถือเป็นผลพลอยได้ที่คุ้มค่าพอตัวเลยทีเดียว

 

5. นักคิดคอนเทนต์

นับเป็น1อาชีพออนไลน์ที่เป็นที่ต้องการของหลายๆบริษัทและเว็บเพจต่างๆ เนื่องจากการทำให้ผู้คนมาสนใจนั้นนับเป็นเรื่องหนึ่งที่สำคัญ ดังนั้นผู้ช่วยคิดคอนเทนต์ดีๆ1คนก็เป็นคนสำคัญที่จะช่วยให้ผู้คนหันมาสนใจ ในเว็บเพจ หรือแม้กระทั้งเป็นการโฆษณาผลิตภัณฑ์ให้ได้มียอดขายที่สูงตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ นักคิดคอนเทนต์จึงเป็นที่ต้องการอย่างมาก ไม่ใช่ว่าใครจะเป็นก็ได้ แต่ต้องเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ และเป็นผู้ที่เปิดทัศนที่กว้างไกลด้วย จึงเป็นอาชีพที่มีคนทำน้อย แต่มีผู้ต้องการมาก และเป็นอาชีพที่ถือว่าได้ดีมากเลยทีเดียว

และนี่ก็คือ 5 อาชีพที่ได้รับความสนใจในขณะนี้หากคุณต้องการทำงานออนไลน์แล้วล่ะก็ ลองเปิดใจให้อาชีพเหล่านี้และลองทำมันดู เชื่อว่าคุณคงเป็นคนหนึ่งที่สามารถประสบความสำเร็จกับอาชีพเหล่านี้ได้แน่นอน

 

# VJ ธุรกิจออนไลน์สำหรับคนที่มั่นใจ สร้างความสุขให้ผู้อื่น

EVER ดัน 3 โครงการพร้อมอัดแคมเปญดันยอดขายครึ่งปีหลัง

EVER ดัน 3 โครงการพร้อมอัดแคมเปญดันยอดขายครึ่งปีหลัง

ประธานกรรมการบริษัท เอเวอร์แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือที่รู้จักกันในนาม EVER ระบุว่าภาพรวมของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์นั้นได้มีการชะลอตัวลงตามภาวะเศรษฐกิจที่กำลังถดถอยอันเนื่องมาจากพิษการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ที่ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจทั่วโลก ทำให้การเปิดตัวของโครงการใหม่ๆ นั้นลดลง แต่ทางบริษัทฯ ยังคงเชื่อมั่นว่าในตลาดจะยังมีความต้องการอสังหาริมทรัพย์แบบโครงการในแนวราบของกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้อยู่ในระดับปานกลางและระดับสูง ที่มีความต้องการในการซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัย โดยบริษัทฯ นั้นได้คิดหาวิธีและแนวทางเพื่อโน้มนาวและกระตุ้นลูกค้าให้ตัดสินใจซื้อ ด้วยแคมเปญ ของฟรีใครว่าไม่มีอยู่จริง เพราะเอเวอร์วิตี้กล้าจัดไหม้ ที่ออกมาเพื่อกระตุ้นยอดขายทาวน์โฮมจำนวนสามโครงการโดยเฉพาะ

EVER ดัน 3 โครงการพร้อมอัดแคมเปญดันยอดขายครึ่งปีหลัง

ซึ่งประกอบไปด้วยโครงการเอเวอร์ซิตี้ศรีนครินทร์-หนามแดง ราคาเริ่มต้น 2.779 ล้านบาท โครงการเอเวอร์ซิตี้สุขสวัสดิ์ 30-พุทธบูชา เริ่มต้นที่ 3.19 ล้านบาท และโครงการเอเวอร์ซิตี้ราอินทรา-ทางด่วนจตุโชติ เริ่มต้นที่ 2.99 ล้านบาท โดยมีค่าใช้จ่ายในการจองเพียง 666 บาทเท่านั้น และยังแจกของฟรีอีกมากมายสุดคุ้มค่า ให้สิทธิ์อยู่ฟรีมากถึง 2 ปี และฟรีค่าจดจำนอง ค่าใช้จ่ายวันโอน และค่าส่วนกลางฟรี 3 ปี พร้อมเครื่องปรับอากาศฟรีทั้งหลัง

ทั้งสามโครงการที่กล่าวมาข้างต้นนี้เป็นโครงการภายใต้บริษัทเอเวอร์ซิตี้ ซึ่งเด่นในเรื่องทำเลดี อยู่ใกล้ขนส่งสาธารณะ ไม่ว่าจะเป็นทางด่วน รถไฟฟ้า หรือสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ที่ครบครัน ออกแบบให้เหมือนบ้านเดี่ยว โล่ง โปร่ง สบาย สามารถเปลี่ยนห้องได้ตามที่ลูกค้าต้องการ โดยมีแนวโน้มว่าบริษัทฯ จะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยมี Backlog ในไตรมาสแรกประมาณ 5 พันล้านบาท มีสินค้ารอจำหน่ายอีกถึง 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งส่วนนี้จะช่วยทำให้ผลการดำเนินงานเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

IAA วิเคราะห์เศรษฐกิจไตรมาส 3 รับมือกรณี COVID-19