VJ ธุรกิจออนไลน์สำหรับคนที่มั่นใจ สร้างความสุขให้ผู้อื่น

VJ ธุรกิจออนไลน์สำหรับคนที่มั่นใจ สร้างความสุขให้ผู้อื่น

VJ หรือที่บางแอพบางโปรแกรมเรียกว่า DJ คือผู้ที่มาแสดงความสามารถ ไม่ว่าจะเป็นการเต้น ร้องเพลง เล่าเรื่อง หรือแม้กระทั่งการพูดคุยตอบโต้เหล่าคนดูให้มีความสุข สนุกสนาม คลายเครียด ผ่านทางแพลตฟอร์มต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ โปรแกรม หรือแม้กระทั่งในแอพลิเคชั่น ยกตัวอย่างที่โด่งดังตั้งแต่เมื่อก่อนจนถึงตอนนี้คือ Garena TalkTalk, Bigo หรือ Vibie สำหรับเหล่าคนดูแล้ว VJ ก็เปรียบเสมือนคนที่ทำให้รู้สึกสนุกและผ่อนคลายเมื่อเปิดดู เป็นคนที่ชอบไม่ว่าจะทั้งหน้าตา บุคลิก หรือแม้แต่ความสามารถ เมื่อชอบมากๆ ก็ย่อมต้องการที่จะสนับสนุนเพื่อให้ VJ คนนั้นยังคงมา Live ต่อไป ซึ่งระบบคร่าวๆ จะมีการซื้อสิทธิ์ VIP โดยคนดูที่ซื้อสิทธิ์ VIP อาจได้รับสิทธิพิเศษต่างๆ กับ VJ คนนั้น เช่นได้มีชื่ออยู่ข้างบนสุด ได้แอดไลน์ส่วนตัวของ VJ เป็นต้น ราคาของ VIP นั้นจะค่อนข้างสูง สำหรับคนที่มีงบประมาณจำกัดอาจเลือกใช้ระบบของขวัญ ซึ่งของขวัญแต่ละอย่าง VJ อาจกำหนดไว้ว่าถ้าคนดูกดของขวัญชิ้นนี้ให้จะทำอะไร เช่น เต้น ร้องเพลง บอกรัก

VJ ธุรกิจออนไลน์สำหรับคนที่มั่นใจ สร้างความสุขให้ผู้อื่น

ในฝั่งของ VJ นั้นงานถือเป็นงานที่ค่อนข้างสนุก แต่ก็ต้องใช้พลังในการทำสูงเช่นกัน ต้องทำให้คนดูชอบและพอใจเพื่อที่จะให้เขาซื้อของขวัญให้ อาจต้องควบคุมอารมณ์เมื่อเจอคนดูที่เข้ามาป่วน แต่ใช้เวลาทำต่อวันไม่นาน สามารถเลือกได้ว่าอยากทำตอนไหน หากทำให้คนดูชอบได้ก็สามารถต่อยอดไปทำอย่างอื่นได้อีก เช่น เปิดแฟนเพจ เปิดช่องYoutube อาจถูกจ้างให้โฆษณาสินค้าต่างๆ เพิ่มเติมด้วย ค่าตอบแทนจากงานก็ค่อนข้างสูง นับว่าคุ้มค่าเหนื่อยที่เต้นโชว์เลยทีเดียว

 

Jaymart ส่งสิทธิซื้อหุ้นในอนาคตลงเทรด

ผลกำไร STGT ดีขึ้นด้วย CAGR 69% 3 ปีต่อเนื่อง

ผลกำไร STGT ดีขึ้นด้วย CAGR 69% 3 ปีต่อเนื่อง

หลักทรัพย์กสิกรไทยหรือ KS ได้รายงานว่าถุงมือศรีตรัง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ STGT นั้น มีเป้าหมายราคาหุ้นอยู่ที่ 43.40 บาทต่อหุ้น โดยอ้างอิงจากค่าเฉลี่ยพื้นฐานของปี 2021E และ 2022E ที่ 2.05 บาท เทียบเท่ากับ 21.2 เท่าต่อปี ซึ่งสอดคล้องกับ PER ในอดีต 7 ปีที่ผ่านมาของกลุ่ม STGT ทั่วโลก ราคาเป้าหมายแสดงถึง PER 2020 ที่มากถึง 18.6 เท่า โดย STGT นั้นเป็นผู้ผลิตถุงมือยางรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และใหญ่เป็นอันดับสามของโลก มีกำลังการผลิตมากถึง 33 พันล้านชิ้นต่อปี โดย STGT วางแผนที่จะเพิ่มกำลังการผลิตเป็นสองเท่าคือ 70 พันล้านชิ้นต่อปี ภายในปี 2571 เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในประเทศกำลังพัฒนาและประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ ที่มีแนวโน้มว่าผู้คนนั้นจะเพิ่มความสนใจในการดูแลสุขภาพมากขึ้น เนื่องจากมีการแพร่ระบาดไปทั่วโลกของเชื้อไวรัส COVID-19 ทำให้ยอดความต้องการถุงมือยางและยอดขายนั้นพุ่งสูงขึ้น

ผลกำไร STGT ดีขึ้นด้วย CAGR 69% 3 ปีต่อเนื่อง

โดยทั่วโลกนั้นมีประเทศไทยและมาเลเซียเป็นฐานการผลิตหลักของโลกเพียงไม่กี่รายเท่านั้นที่ผลิตถุงมือยางออกขายในตลาด จึงกลายเป็นผู้ขายน้อยรายที่แทบจะไม่มีคู่แข่ง ด้วยกฎระเบียบที่เข้มงวดของบางตลาดอย่างเช่นสหรัฐอเมริกา ทำให้ STGT มีข้อได้เปรียบเมื่อเทียบกับคู่แข่งรายใหม่ในด้านมาตรฐานและใบรับรอง ทั้งยังตั้งอยู่ในประเทศไทยซึ่งส่งผลให้ต้นทุนการผลิตค่อนข้างต่ำ โดย Finansia Syrus Securities เองก้ยังมีมุมมองเชิงบวกต่อ STGT และแนะนำราคาเป้าหมายอยู่ที่ 45 บาทต่อหุ้น ขณะที่ Maybank Kim Eng ได้ให้ราคายุติธรรมอยู่ที่ 56 บาทต่อหุ้น และสุดท้ายคือ Capital Nomura Securities ที่แนะนำราคาเป้าหมายไว้ที่ 42-50 บาทต่อหุ้นเลยทีเดียว

 

# หุ้น TPS บวกเพิ่มขึ้นถึง 7% ควรช้อนซื้อไว้หรือไม่

ผู้บริหาร ORI คาดยอดขายเกินเป้า วิ่ง 5% สูงสุดในรอบ 4 เดือน

ผู้บริหาร ORI คาดยอดขายเกินเป้า วิ่ง 5% สูงสุดในรอบ 4 เดือน

ปัจจุบันราคาหุ้นของบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI นั้น ล่าสุดอยู่ที่ 5.70 บาท บวกเพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ 4.59% โดยยอดสูงสุดอยู่ที่ 5.80 บาท และต่ำสุดอยู่ที่ 5.50 บาท มูลค่าซื้อขายรวม 54.94 ล้านบาท หากนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ราคาหุ้นอยู่ที่ 5.85 บาทแล้ว นับว่าราคาหุ้นของ ORI ได้ปรับสูงสูงที่สุดในรอบ 4 เดือน โดยประธานเจ้าหน้าที่บริหารได้เผยว่าแนวโน้มยอดขายปี 2563 นั้นมีโอกาสเติบโตมากกว่าที่ตั้งไว้ 21,500 ล้านบาท เนื่องจากช่วงครึ่งปีแรกมียอดสะสมแล้วอยู่ที่ 11,000 ล้านบาท จากการขายโครงการเดิมที่กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างและขายเป็นหลัก คิดเป็นมากกว่า 50% ของเป้าหมายทั้งปี ซึ่งปกติแล้วช่วงไตรมาสที่ 3 และ 4 จะเป็นช่วงที่ยอดขายพุ่งสูงสุดของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อยู่แล้ว จึงมีแนวโน้มว่ายอดขายจะสูงมากกว่าครึ่งปีแรก

ทางด้านของ SAL ได้วิเคราะห์ไว้ว่า ให้ทยอยสะสมหุ้น ORI เนื่องจากผลประกอบการนั้นมีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่อง ด้วยยอดขายในครึ่งปีแรกที่ได้ไปมากกว่า 11,000 ล้านบาท ที่มาจากการเปิดตัวโครงการใหม่เพียงแค่ 2 โครงการเท่านั้น มูลค่ารวม 3,300 ล้านบาท ซึ่งเติบโตมากกว่าเป้าหมายที่บริษัทตั้งไว้ในช่วงต้นปี โดยที่ผ่านมานั้นบริษัทได้มีการออกแคมเปญการตลาดต่างๆ และผลักดันพนักงานให้ขายสินค้าผ่านช่องทางสื่อสารส่วนบุคคล ในโครงการ Everyone can sell และในช่วงครึ่งปีหลังนี้ยังมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่อีกถึง 12 โครงการด้วยกัน มูลค่ารวมถึง 16,700 ล้านบาท จึงมีแนวโน้มว่าครึ่งปีหลังจะสามารถทำกำไรได้มากขึ้นและยอดกำไรทั้งปีเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้

 

Jaymart ส่งสิทธิซื้อหุ้นในอนาคตลงเทรด

หุ้นโรงแรมคึกคักหลังได้มาตรการกรุต้นการท่องเที่ยวอุ้ม

หุ้นโรงแรมคึกคักหลังได้มาตรการกรุต้นการท่องเที่ยวอุ้ม

เมื่อเวลา 10.22 น. ของวันที่ 2 กรกฎาคมที่ผ่านมา หุ้นของบริษัท แอสเสท เวิร์ด คอร์ป ขำกัด (มหาชน) หรือ AWC มีราคาหุ้นอยู่ที่ 4.08 บาทต่อหุ้น บวก 0.12 บาท คิดเป็น 3.03% และมีราคาสูงสุดอยู่ที่ 4.12 บาท ราคาต่ำสุดอยู่ที่ 4 บาท มลูค่าซื้อขายรวมอยู่ที่ 104.43 ล้านบาท ส่วนหุ้นของบริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เรชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือที่เรียกกันว่า MINT นั้น มีราคาอยู่ที่ 20.30 บาท หรือคิดเป็น 1% มีราคาสูงสุดอยู่ที่ 20.40 บาท และราคาต่ำสุดที่ 20.10 บาท มูลค่าซื้อขายรวม 4.49 ล้านบาท ทางบริษัท หลักทรัพย์ไอร่า จำกัด ได้วิเคราะห์ไว้ว่าหุ้นกลุ่มโรงแรมนั้นกลับมามีแนวทางในเชิงบวก หลังจากที่มีการประกาศกฎกระทรวงให้ยกเว้นค่าธรรมเนียมสำหรับการประกอบธุรกิจโรงแรมได้เล็กน้อย และครม.ยังอนุมัติมาตรการที่ออกมาเพื่อช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ วงเงินสูงถึง 2.24 หมื่นล้านบาท ในชื่อโครงการเราเที่ยวด้วยกัน โดยจะเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนรับสิทธิ์ภายในวันที่ 15 กรกฎาคมนี้ แบ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่พัก 5 ล้านสิทธิ์ ค่าอาหารปละแหล่งท่องเที่ยว 5 ล้านสิทธิ์ และค่าตั๋วเครื่องบิน 2 ล้านใบ

หุ้นโรงแรมคึกคักหลังได้มาตรการกรุต้นการท่องเที่ยวอุ้ม

สาเหตุที่จะต้องมีมาตรการเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวและโรงแรมเนื่องจากก่อนหน้านี้ในช่วงต้นปีภาคธุรกิจด้านโรงแรมและการท่องเที่ยวนั้นได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 มากที่สุด เนื่องจากหลายๆ ประเทศรวมถึงประเทศไทยได้ออกมาตรการรับมือโดยให้ประชาชนนั้นอาศัยอยู่แต่ในบ้านเพื่อลดการระบาด การเดินทางสัญจรยากลำบากมากขึ้น เมื่อสถานการณ์เริ่มดีขึ้นจึงต้องฟื้นฟูเศรษฐกิจในด้านนี้ก่อน ดูจากข้อมูลราคาหุ้นที่เพิ่มสูงขึ้นแล้วเป็นไปได้ว่าในช่วงครึ่งปีหลังธุรกิจโรงแรมมีแนวโน้มที่จะมีรายได้เพิ่มสูงขึ้นอีกด้วย

 

# หุ้นคืออะไรและมีความสำคัญอย่างไร

ปีหน้าต่างชาติจะอยากค้าขายกับไทยอยู่อีกไหม

ปีหน้าต่างชาติจะอยากค้าขายกับไทยอยู่อีกไหม

ช่วงนี้ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจจะซบเซา แต่งานขายของออนไลน์กลับรุ่งเรืองกว่าที่เคย เพราะเทคโนโลยีที่คอยอำนวยความสะดวกต่างๆ มีมากกว่าเดิม แถมเจ้าใหญ่ๆ ยังจัดโปรโมชั่น ลด แลก แจก แถม กันแบบจัดหนักจัดเต็มอีกด้วย จึงไม่แปลกใจเลย ว่าทำไมคนรุ่นใหม่ ถึงเลือกที่จะซื้อของออนไลน์ มากกว่าการขับรถไปซื้อของเองที่ห้างสรรพสินค้า

โดยเมื่อเมื่อต้นเดือนที่แล้ว โฆษกกรมสรรพากรอย่าง นางสมหมาย ศิริอุดมเศรษฐ ก็ได้ออกมาแถลงข่าวให้ทราบทั่วกันว่า ทางสรรพากรจะเริ่มจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากผู้ให้บริการอิเล็กทรอนิกส์และดิจิทัลแพลตฟอร์มในต่างประเทศ (e-Service) ได้ในปี ภาษี 2564 เพราะในขณะนี้คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบ และอนุมัติร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ภาษีแพลตฟอร์มดิจิตอลต่างชาติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่งผลให้เกิดค่าใช้จ่ายในการทำธุรกิจในไทยมากขึ้น ซึ่งดีต่อรัฐบาลไทยที่จะมีรายได้เข้าคลังมากขึ้น แต่อาจจะส่งผลเสียต่อผู้บริโภค เพราะต่างชาติคงรู้สึกไม่คุ้มค่าที่จะลงทุนเหมือนอย่างที่เคย

ปีหน้าต่างชาติจะอยากค้าขายกับไทยอยู่อีกไหม

อย่างไรก็ตามร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ยังไม่เสร็จสิ้นสมบูรณ์ เพราะยังจะต้องเสนอให้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา หากเห็นชอบก็จะประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป และหลังจากนั้น 6 เดือนจึงจะเริ่มจัดเก็บได้ โดยภาษี e-Service ผู้ให้บริการต่างประเทศน นั้นจะครอบคลุมสินค้าและบริการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแพลตฟอร์มดูหนัง นายหน้า สื่อโฆษณา เกม แหล่งช้อปปิ้งออนไลน์ รวมถึงบริการ e-Commerce เช่น Facebook, YouTube, Google, Line, Netflix, Lazada ที่ให้บริการในประเทศไทย หากเข้าข่ายว่ามีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี จำเป็นต้องจดทะเบียนกับกรมสรรพากร โดยไม่มีภาษีซื้อ เช่น ถ้าให้บริการ 100 บาท จะต้องนำส่งทันที 7 บาท หรือ 7% ของค่าบริการ

 

Live แคสเกม นั่งเล่นเกมอยู่บ้านก็ทำเงินได้